
การเติมถังออกซิเจนเป็นงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ ไม่สามารถทำเองได้ ผู้ให้บริการต้องมีเครื่องเติมออกซิเจนแรงดันสูง ระบบวาล์วที่ได้มาตรฐาน และเครื่องมือวัดความดันแบบแม่นยำ ดังนี้
1. ก่อนเริ่มเติมต้องตรวจสอบสภาพถังออกซิเจน
- ตรวจหาสนิม รอยบุบ หรือรอยแตกร้าว
- ตรวจดูว่าหัววาล์วอยู่ในสภาพดี ไม่มีการชำรุด
2. ต้องมีการตรวจรอยรั่วของถัง
- ใช้น้ำสบู่ทาบริเวณข้อต่อและวาล์ว
- หากมีฟองแสดงว่าถังหรือจุดเชื่อมต่อมีรอยรั่ว ต้องหยุดใช้งานทันที
3. ร้านที่ให้บริการต้องมีเครื่องเติมออกซิเจนแรงดันสูง ที่ได้มาตรฐาน
- ควบคุมความดันได้แม่นยำ
- มีระบบความปลอดภัยป้องกันแรงดันเกิน
4. ใช้เครื่องมือวัดความดัน (Pressure Gauge) ที่แม่นยำ
- เพื่อให้ระดับแรงดันในถังไม่เกินมาตรฐาน เช่น 1,500–2,000 PSI
- ตรวจสอบอีกครั้งหลังจากเติมเสร็จ
5. ระหว่างเติมต้องเปิด–ปิดวาล์วอย่างช้า ๆ
- เพื่อป้องกันการเพิ่มแรงดันเร็วเกินไป
- ลดความเสี่ยงของการเกิดประกายไฟหรือแรงดันกระชาก
6. หลังเติมต้องตรวจความดันอีกครั้ง
- เพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณออกซิเจนเพียงพอและอยู่ในช่วงที่ปลอดภัย
7. ปิดวาล์วให้แน่นและตรวจสอบซ้ำว่าไม่มีการรั่วไหลหลังเติม
8. หลีกเลี่ยงการเติมถังออกซิเจนเองที่บ้าน
- เครื่องเติมต้องเป็นระบบมาตรฐานโรงงาน
- ออกซิเจนเป็นก๊าซบริสุทธิ์ที่ติดไฟได้ง่าย
- มีความเสี่ยงต่อการระเบิดและการรั่วไหลสูง
9. ควรใช้บริการเติมถังออกซิเจนจากร้านมืออาชีพและได้รับการรับรองเท่านั้น เพราะ
- ปลอดภัยกว่า
- ตรวจสอบถังให้ก่อนเติม
- รับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้ใช้งาน